เพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษาวิธีการทำให้ประจุโดยการเหนี่ยวนำ

                  1.นำแผ่นเปอร์สเปกซ์ที่มีประจุเข้าใกล้จานโลหะของอิเล็กโทรสโคป แล้วดึงออกห่าง สังเกตการณ์กางของแผ่นโลหะบาง
                  2.นำแผ่นเปอร์สเปกซ์ที่มีประจุเข้าใกล้ด้านหนึ่งของจานโลหะอีก
                  3.ใช้นิ้วแตะจานโลหะที่ด้านตรงกันข้าม แล้วยกนิ้วออก
                  4.นำแผ่นเปอร์สเปกซ์ออกห่างจากจานโลหะ สังเกตการณ์กางของแผ่นโลหะบาง การทดลองนี้อาจใช้สายไฟที่ปลายหนึ่งต่อโยงกับตัวนำที่ฝังใต้ดินชื้นๆ แล้วนำอีกปลายหนึ่งมาแตะกับจานโลหะแทนการใช้นิ้วแตะก็ได้

                  1.เมื่อนำแผ่นเปอร์สเปกซ์ที่มีประจุไฟฟ้าเข้าใกล้จานโลหะ แผ่นโลหะบางกางออกและเมื่อดึงออก แผ่นโลหะบางจะหุบเข้า ดังรูป

                  2.เมื่อนำแผ่นเปอร์สเปกซ์ที่มีประจุไฟฟ้าเข้าใกล้จานโลหะ แผ่นโลหะบางกางออกและเมื่อใช้นิ้วเตะจานบนของอิเล็กโทรสโคปแผ่นโลหะบางจะหุบดังรูป ก. และเมื่อยกนิ้วออกโดยแผ่นเปอร์สเปกซ์ยังอยู่ที่เดิม แผ่นโลหะของอิเล็กโทรสโคปยังหุบอยู่เช่นเดิม ดังรูป ข. และหลังจากนั้นดึงแผ่นเปอร์สเปกซ์ออก แผ่นโลหะบางจะกางออกอีกครั้งดังรูป ค.

                  3.เมื่อใช้สายไฟแทนการใช้มือจับตามรายละเอียดวิธีการทำการทดลอง จะได้ผลเช่นเดียวกัน ดังรูป

         สรุปผลการทดลอง
                  1.การทำให้อิเล็กโทรสโคปมีประจุไฟฟ้าโดยการเหนี่ยวนำนั้น จะใช้การเหนี่ยวนำอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีการเหนี่ยวนำพร้อมทั้งใช้นิ้วมือแตะหรือต่อสายไฟกับพื้นดิน
                  2.การทำให้วัตถุมีประจุไฟฟ้าดังกล่าวในข้อ 1 สมมติว่าถ้านำประจุบวกเข้าใกล้จานโลหะของอิเล็กโทรสโคป จะทำให้อิเล็กโทรสโคปมีประจุไฟฟ้า ดังรูป

                  รูป ก. ประจุทั้งหมดที่พิจารณา คือประจุในอิเล็กโทรสโคปและแผ่นเปอร์สเปกซ์จะเห็นว่าไม่เป็นกลาง แต่เมื่อต่อสายดินตาม รูป ข. จำนวนประจุทั้งหมดอยู่ในสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้า ดังนั้นการต่อสายดินเป็นการทำให้ระบบอยู่ในสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้า แผ่นโลหะบางของอิเล็กโทรสโคปจะหุบลง ดังรูป ค. จะเห็นการต่อสายดินก็คือ การเอานิ้วมือแตะจานบนของอิเล็กโทรสโคปจะเป็นประจุลบ จึงทำให้แผ่นโลหะของอิเล็กโทรสโคปกางอีกครั้ง ดังรูป ง. นั่นคือ อิเล็กโทรสโคปมีประจุไฟฟ้าลบ