<< Go Back

     แกงฮังเลหรือแกงฮินเล เป็นอาหารไทยที่มีต้นกำเนิดจากประเทศพม่า คำว่า “ฮิน” นั้นในภาษาพม่า หมายถึง แกง และ “เล” หมายถึง เนื้อสัตว์ แกงฮังเลได้รับความนิยมจากชาวไทยภาคเหนือและแคว้นสิบสองปันนา แกงฮังเลเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากพม่าในสมัยอดีต แกงที่ชาวพม่าเรียกว่า “ฮินแล” หรือ “ฮังแล” เป็นแกงอย่างเดียวกับที่ชาวล้านนาเรียกว่า “แกงโฮะ” และแกงอย่างที่ชาวล้านนาเรียก “ฮินแล” หรือ “ฮังแล” ชาวพม่าเรียก “แวะตาฮีน” แปลว่า แกงหมู

     นอกจากนี้การทำสงครามระหว่างไทยล้านนากับพม่าในสมัยก่อนนั้น มีส่วนทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านอาหาร ผลัดกันแพ้ชนะและผลัดกันกวาดต้อนผู้คนของแต่ละเมืองไปยังบ้านเมืองตน เกิดการรับวัฒนธรรมการกินเข้ามา แกงฮังเล ตำรับดั้งเดิมเป็นของพม่า แต่เมื่อมาเป็นอาหารไทยได้ถูกดัดแปลงผิดแปลกไปจากเดิม จากที่เคยมีพริกแกงแห้ง ผงแกงฮังเล มะเขือเทศ และเนื้อสัตว์ คนไทยนำมาประยุกต์ให้ถูกปากโดยเติมเครื่องเทศบางอย่างลงไป คือ พริก หอม กระเทียม กะปิ ข่า ตะไคร้ โขลกละเอียดเคล้ากับเนื้อหมูสามชั้น ผงฮังเล และซีอิ้วดำ นำมาผัด เติมน้ำ ใส่มะขามเปียก น้ำตาล กระเทียมดอง และขิงลงไป แกงฮังเลไทยจึงแตกต่างจากแกงฮังเลของพม่า แกงฮังเลจัดว่าเป็นอาหารยอดนิยมอันดับต้นๆ ของชาวล้านนา ถือว่าเป็นอาหารมงคลชนิดหนึ่ง อีกทั้งยังมีต้นทุนในการผลิตค่อนข้างสูง ชาวบ้านจึงนิยมนำไปถวายพระเนื่องในโอกาสวันสำคัญ ๆ ทางพุทธศาสนาตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงยุคปัจจุบัน

 

1. กระชอน 2. กระดาษฟอยล์
   
3. กระทะ 4. เขียง
   
5. ครก 6. เครื่องดูดควัน
   
7. จาน 8. ช้อน
   
9. ชามผสมหรือกะละมัง 10. ตะหลิวหรือพายไม้
   
11. เตาไฟฟ้า 12. ถ้วยตวง
   
13. ที่คีบอาหาร 14. พายซิลิโคน
   
15. มีด 16. หม้อใบใหญ่
   
17. หม้อใบเล็ก 18. ถ้วยเสิร์ฟ

 

วัตถุดิบสำหรับทำพริกแกง
1. พริกแห้งยอดสน 2. พริกชี้ฟ้าแห้ง
   
3. ข่า 4. ตะไคร้
   
5. กระเทียม 6. หอมแดง
   
7. กะปิ 8. เกลือ
   
 
9. ผงกะหรี่  
   
วัตถุดิบสำหรับทำแกงฮังเลต่อนยอน
1. เนื้อสันคอหมู 500 กรัม 2. หมูสามชั้น 250 กรัม
   
3. กระเทียมดอง 4. น้ำมันพืช
   
5. ขิง 6. มะขามเปียก
   
7. น้ำตาลปี๊บ 8. ซีอิ๊วขาว

 

     1. ใส่มะขามเปียกลงไปในชามผสม จากนั้นเทน้ำอุ่นลงไปเล็กน้อย

 

     2. ใช้มือขยำมะขามเปียก แยกเอากากออก

 

    3. ใช้ช้อนกดเนื้อมะขามเปียกเพื่อรีดเอาน้ำมะขามออกมา จากนั้นเติมน้ำอุ่นลงไปอีกเล็กน้อย

 

     4. เทน้ำมะขามเปียกลงไปในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวโดยใช้ไฟอ่อน

 

     5. ระหว่างรอเคี่ยวมะขามเปียก นำพริกชี้ฟ้าแห้งและพริกขี้หนูยอดสนแห้งอย่างละ 10 เม็ดไปแช่ในน้ำสะอาด

 

     6. กรองน้ำมะขามเปียกด้วยกระชอน จากนั้นใช้พายซิลิโคนกดเนื้อมะขามเพื่อรีดเอาน้ำมะขามออกมา

 

     7. ปอกเปลือกกระเทียม โดยใช้ประมาณ 1 ช้อนตวง (ประมาณ 25 กลีบ)

 

     8. ปอกเปลือกหอมแดง โดยใช้ประมาณ 1 ช้อนตวง จากนั้นนำไปล้างน้ำให้สะอาด

 

     9. ลอกเปลือกลำต้นที่แข็งของตะไคร้ออก (ใช้ตะไคร้ 4 ต้น) จากนั้นนำไปล้างน้ำให้สะอาด

 

     10. ซอยตะไคร้ โดยเอาเฉพาะส่วนลำต้นที่มีเส้นสีม่วง

 

     11. หั่นข่าเป็นแว่น โดยใช้ประมาณ 8 - 10 แว่น

 

     12. ซอยข่าเป็นชิ้นเล็ก ๆ

 

     13. ห่อกะปิด้วยกระดาษฟอยล์ (ใช้กะปิ 1 ½ ช้อนโต๊ะ)

 

     14. นำกระทะขึ้นตั้งบนเตา โดยใช้ไฟกลาง จากนั้นย่างกะปิให้หอม

 

     15. ใส่ตะไคร้และข่าลงไปในครก

 

     16. ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย โขลกให้ละเอียด

 

     17. นำพริกแห้งที่แช่น้ำมาซับด้วยกระดาษทิชชูให้แห้ง

 

     18. ซอยพริกให้มีขนาดเล็กลง

 

     19. ใส่พริกลงไปตำในครกให้แหลก

 

     20. หั่นหอมแดงให้มีขนาดเล็กลง จากนั้นใส่หอมแดงและกระเทียมลงไปในครก โขลกให้ละเอียด

 

     21. ใส่กะปิลงไปในครก โขลกรวมกับเครื่องแกง

 

     22. หั่นเนื้อหมูสามชั้นให้มีความหนาประมาณ 2 นิ้ว

 

     23. หั่นเนื้อสันคอหมูให้มีความหนาประมาณ 2 นิ้วเช่นเดียวกัน

 

     1. ตั้งกระทะบนเตาโดยใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันพืช 1 ½ ช้อนโต๊ะ

 

     2. เมื่อน้ำมันร้อน นำพริกแกงลงไปผัดจนหอม

 

     3. ใส่เนื้อหมูลงไปผัดกับเครื่องแกง ปรับไฟให้แรงขึ้น ผัดไปเรื่อย ๆ จนกว่าเนื้อหมูจะเริ่มตึง

 

     4. เติมน้ำเปล่าลงไปแค่พอขลุกขลิก

 

     5. เมื่อน้ำเริ่มแห้ง ให้เปลี่ยนจากกระทะเป็นหม้อใบใหญ่

 

     6. ใส่ผงกะหรี่ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน

 

     7. เติมน้ำเปล่าลงไปแค่พอท่วมเนื้อหมู และเคี่ยวต่อประมาณครึ่งชั่วโมง

 

    8. ระหว่างรอเคี่ยวแกง ให้ใช้สันมีดหรือช้อนขูดเอาเปลือกขิงออก

 

    9. หั่นขิงให้แผ่นตามยาว

 

    10. ซอยขิงให้เป็นเส้น ๆ ในแนวยาว พักเอาไว้ก่อน

 

    11. ใส่น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะลงไปในหม้อแกง คนให้น้ำตาลละลาย

 

    12. ใส่ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ

 

    13. ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย

 

    14. ตัดก้านกระเทียมดองออก

 

    15. นำกระเทียมดองทั้งหัวใส่ลงไปในหม้อแกง

 

    16. ใส่ขิงซอยลงไปในหม้อแกง คนเล็กน้อยและเคี่ยวต่อไปอีกประมาณ 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง

 

    17. เติมน้ำมะขามเปียกลงไป 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นปิดเตา

 

     1. ตักเนื้อหมูใส่ในถ้วยเสิร์ฟ

 

     2. ใช้ช้อนตักน้ำแกงใส่ในถ้วยเสิร์ฟ

 

     3. เช็ดขอบจานให้สะอาด

 

     4. เสิร์ฟแกงฮังเลต่อนยอนกับข้าวสวยร้อน ๆ

 

     1. ตอนเคี่ยวมะขาวเปียกจะต้องใช้ไฟอ่อน เพราะไฟที่แรงเกินไปอาจทำให้น้ำมะขามเปียกมีรสชาติขมได้

 

     2. พริกชี้ฟ้าแห้งแดงจะให้สีแดงสวย ส่วนพริกขี้หนูยอดสนแห้งจะมีรสชาติที่เผ็ดกว่า ปริมาณการใส่พริกแต่ละชนิดจึงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล

 

     3. การตำเครื่องแกง จะเริ่มตำจากวัตถุดิบที่เป็นของแข็ง ซึ่งแหลกช้าก่อน ซึ่งในที่นี้คือตะไคร้และข่า

 

     4. หมูสามชั้นสำหรับทำแกงฮังเล จะต้องเลือกชิ้นที่ไม่มีไขมันมากเกินไป

 

        แกงฮังเลเป็นแกงน้ำขลุกขลิกที่ค่อนข้างมีไขมัน แต่ใส่น้ำมะขามเปียกช่วยลดความรู้สึกเลี่ยนมันของหมูสามชั้น และช่วยเพิ่มเส้นใยอาหาร มีขิงช่วยเพิ่มรสชาติ ขับลมและย่อยง่าย มีคุณค่าทางโภชนาการ คือ มีทั้งพลังงานจากเนื้อหมู มันหมู ช่วยให้ความอบอุ่นเหมาะกับสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น นอกจากนั้นยังจะได้แคลเซียม ฟอสฟอรัส แบต้าแคโรทีน วิตามินบีสอง วิตามินซี จากส่วนผสมอื่นๆ ด้วย

     เนื้อหมูที่นำมาใช้ทำแกงฮังเลจะใช้เนื้อสันคอหมูและหมูสามชั้น เพราะจะได้สัมผัสที่แตกต่างกันสองแบบ เนื้อสันคอหมูจะให้สัมผัสที่นุ่มและมีไขมันแทรกในเนื้อ ส่วนหมูสามชั้นจะให้สัมผัสที่เป็นมันมากกว่าและมีหนังหมูนุ่ม ๆ การเลือกสามชั้นที่ดีควรมีสัดส่วนระหว่างมันหมูและเนื้อ 70 : 30 จะทำให้แกงฮังเลอร่อยมากขึ้น

 

     ปริมาณของวัตถุดิบที่เชฟกำหนดเป็นเพียงสัดส่วนโดยประมาณ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบของแต่ละบุคคล โดยในที่นี้เชฟได้ปรับเปลี่ยนสัดส่วนของวัตถุดิบ ดังนี้
     วัตถุดิบสำหรับทำพริกแกง
          1. พริกแห้งยอดสน 10 เม็ด
          2. พริกชี้ฟ้าแห้ง 10 เม็ด
          3. ข่า 1 แง่ง (8 แว่น)
          4. ตะไคร้ 4 ต้น
          5. กระเทียม 25 กลีบ (1 ช้อนโต๊ะ)
          6. หอมแดง 1 ช้อนโต๊ะ
          7. กะปิ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
          8. เกลือเล็กน้อย
          9. ผงกะหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ
     วัตถุดิบสำหรับทำแกงฮังเลต่อนยอน
          1. เนื้อสันคอหมู 500 กรัม
          2. หมูสามชั้น 250 กรัม
          3. กระเทียมดอง 3 หัว
          4. น้ำมันพืช 1 ½ ช้อนโต๊ะ
          5. ขิง 1 แง่ง
          6. มะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
          7. น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
          8. ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ

  



<< Go Back