<< Go Back

      ยำถั่วพูกุ้งสด เป็นเมนูยำทางภาคกลางของไทยมีรสชาติที่เปรี้ยวหวานเค็มเผ็ดเล็กน้อยมีความหอมมันจากหัวกะทิที่ใส่ลงไป ความหวานมันจากตัวถั่วพูเข้ากับความเข้มข้นของน้ำยำอย่างมากแถมยำถั่วพูกุ้งสดยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์จากถั่วพูเช่น ช่วยบำรุงกำลังช่วยให้ฟันแข็งแรง ช่วยลดไข้ แก้ร้อนใน และยังอุดมไปด้วยกรดไขมันอิ่มตัว นับเป็นอาหารที่ขึ้นชื่ออีกจานหนึ่งของคนไทย

      ทอดมันกุ้ง อาหารไทย เมนูทอดจากกุ้ง สำหรับคนไม่กินเผ็ด วิธีทำทอดมันกุ้ง ง่ายๆ สามารถทำกินเองได้ กับข้าวจากกุ้ง เมนูกุ้ง โดยนำเนื้อกุ้งบดปรุงรสชาติ และ นำมาทอดให้กรอบอร่อย

1. หม้อ 2. เขียง
   
3. มีดเชฟ 4. กระชอนตาถี่
   
5. ชามผสม 6. พายยาง
   
7. ถ้วยตวงของเหลว 8. ช้อนขนาดต่างๆ
   
9. เตาไฟฟ้า ถุงมือยาง

 

1. ถั่วพู 100 กรัม 2. กุ้งแชบ๊วย 8 ตัว
   
3. หมูสับ 1 ช้อนโต๊ะ 4. ตะไคร้ 25 กรัม
   
5. หอมแดง 20 กรัม 6. ใบมะกรูด 4 ใบ
   
7. พริกขี้หนูสวน 1-2 ช้อนชา 8. หัวกะทิ 5 ช้อนโต๊ะ
   
9. เกลือ 10. น้ำพริกเผา
   
11. น้ำปลา 12. น้ำมะนาว
   
13. น้ำตาลมะพร้าว 14. ไข่ต้ม
   
15. พริกชี้ฟ้าแดง (สำหรับตกแต่ง) 16. ยอดใบสะระแหน่ (สำหรับตกแต่ง)
   

 



      1. ทำการแกะกุ้ง โดยให้เหลือเปือกข้อสุดท้ายไว้ และให้ทำการหักหางแข็งทิ้ง

 

      2. ใช้มีดผ่าหลังกุ้งโดยกรีดเข้าไปลึกประมาณครึ่งหนึ่งของตัวกุ้ง แล้วทำการดึงเส้นดำที่หลังกุ้งออก

 

      3. ตั้งหม้อต้มน้ำรอ (สำหรับลวกกุ้ง) โดยใส่น้ำลงไปประมาณครึ่งหม้อและใส่เกลือลงไปเล็กน้อย

 

      4. นำถั่วพู, ใบมะกรูด, สะระแหน่, พริกขี้หนู และหอมแดงที่ปอกเรียบร้อยแล้ว นำทุกอย่างล้างทำความสะอาด

  

      5. ทำการหั่นถั่วพูโดยหั่นส่วนหัว-ท้ายทิ้ง แล้วหั่นเป็นชิ้นยาวประมาณครึ่งเซ็น

 

      6. นำพริกขี้หนู, ใบมะกรูด และหอมแดงซับให้แห้ง แล้วนำมาซอยบางๆ และใส่รวมกันไว้ในชามผสม

      7. น้ำที่ต้มไว้เดือดได้ที่ เราก็จะทำการลวกกุ้งโดยนำกุ้งใส่หม้อ และลวกแค่พอสุก เนื้อต้องมีลักษณะขุ่นและเป็นสีส้มถือว่าใช้ได้แล้ว

 

      8. ตักน้ำหัวกะทิ 3 ช้อนโต๊ะลงไปคลุกกับหมูสับ และทำการกดหรือคลุกให้เนื้อหมูเข้ากับน้ำกะทิแล้วพักไว้

 

      9. ตั้งหม้อต้มน้ำรอ (สำหรับลวกถั่วพู) โดยใส่น้ำลงไปประมาณครึ่งหม้อและใส่เกลือลงไปเล็กน้อย

 

      10. นำตะไคร้ 2 ต้น และพริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ดล้าง หลังจากนั้นซอยตะไคร้ให้บางที่สุด

      ตัดขั้วพริกชี้ฟ้าแดงออกแล้วทำการหั่นให้มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว เสร็จแล้วกรีดครึ่งนำไส้พริกออก และใช้มีดเฉือนด้านในที่เป็นสีขาวออก หลังจากนั้นก็ทำซอยบางๆแล้วแช่น้ำพักไว้

 

      11. น้ำที่ต้มไว้เดือดได้ที่ เราก็จะทำการลวกถั่วพูโดยก่อนอื่นให้เตรียมน้ำแข็งใส่โถและเติมน้ำลงไปในโถน้ำแข็งที่เตรียมไว้  หลังจากนั้นนำถั่วพูลงหม้อคนให้เข้ากัน ลวกประมาณ 1 นาที หากถั่วพูสุกได้ที่ให้ใช้ตะแกรงตักถั่วพูลงน็อคน้ำเย็นทันที และคนให้ถั่วพูคลายความร้อน หลังจากถั่วพูเย็นตัวลงให้ใช้ตะแกรงกรองน้ำทิ้ง

 

      12. ตั้งหม้อเปิดเตานำหมูที่คลุกกับน้ำหัวกะทิไว้ลงรวนในหม้อ  เติมน้ำหัวกะทิเพิ่มอีก 2 ช้อนโต๊ะ และเติมเกลือลงไป 2 หยิบมือ คนไปเรื่อยๆจนหมูสุก แล้วตักขึ้นจากหม้อพักไว้

 

      13. ตั้งหม้อเปิดเตา ตักน้ำหัวกะทิลงไป 2 ช้อนโต๊ะ ใส่เกลือลงไป 2 หยิบมือ เคี้ยวแค่พอสุก แล้วปิดเตา

 

      14. นำมะนาวมา 4 ลูก ผ่าให้ได้ประมาณ 3-4 ชิ้น/ลูก นำเม็ดออกแล้วบีบลงถ้วยเตรียมไว้

  


      1. เตรียมถ้วยหรือชามผสม โดยใช้สูตร 3 2 1 คือ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ คนผสมจนน้ำตาลมะพร้าวละลาย

 

      2. ใส่น้ำพริกเผาลงไปในถ้วยน้ำยำประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยกะทิที่อยู่ในหมูที่เรารวนไว้ 2 ช้อนโต๊ะ คนทุกอย่างให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่หมูสับที่รวนเตรียมไว้ใส่ลงไป และคลุกเคล้าให้เข้ากัน

 

      3. นำน้ำยำที่ได้เทลงในชามผสมที่มีเครื่องสมุนไพรที่เราได้ซอยเตรียมไว้ และคลุกเคล้าให้เข้ากัน

 

      4. นำถั่วพูที่ได้ทำการลวกไว้แล้วลงในชามผสม หลังจากนั้นก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน

 

      5. นำกุ้งที่ลวกไว้ลงชามผสม แล้วทำการคลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จสิ้น

 

 

      1. ทำการตักยำถั่วพู (ยกเว้นกุ้ง) ลงจาน โดยให้อยู่ตรงกลางของจาน   

 

      2. นำกุ้งวางด้านบนจัดให้ดูสวยงาม

 

      3. นำน้ำกะทิที่เราได้เตรียมไว้ราดลงไป

 

      4. โรยหน้าด้วยใบมะกรูดหั่นฝอย และพริกชี้ฟ้าที่เราได้ซอยเป็นเส้นไว้

 

      5. นำยอดใบสะระแหน่วางด้านบน ประมาณ 2 ยอด

 

      6. นำไข่ต้มมาผ่าแบ่งให้ได้ 4 ชิ้น แล้วนำมาวางด้านข้างของยำถั่วพูกุ้งสด 3 ชิ้น

      7. นำดอกอัญชันมาวางตกแต่งเพื่อตัดสี และแปะด้วยทองคำทานได้

 

      1. การผ่าหลังกุ้ง จะต้องผ่าให้ลึกประมาณครึ่งหนึ่งของตัวกุ้ง เพื่อที่กุ้งจะได้สุกเร็วและสุกพร้อมๆกัน

 

      2. การใส่เกลือลงไปในหม้อลวกถั่วพูนั้น เพื่อเพิ่มจุดเดือดของน้ำ และยังทำให้ถั่วพูไม่ดำ

 

      3. การนำถั่วพูที่ลวกแล้วน็อคน้ำเย็นทันที เพื่อเป็นการหยุดความร้อนไม่ให้ถั่วพูสุกเกินไป

 

      4. การบีบมะนาวที่ถูกต้อง เราต้องไม่บีบจนสุด หรือจนน้ำมันที่ผิวของมะนาวออก เพราะจะทำให้ได้น้ำมะนาวที่ขม

 

1. หม้อสำหรับทอด 2. กระชอน
   
3. ตะแกรงพัก 4. กระดาษซับมัน
   
5. ชามผสม 6. ไม้พาย
   
7. เขียง 8. มีดเชฟ
   
9. ครก+สาก 10. เตาไฟฟ้า
   
11. น้ำแข็ง 12. ช้อนขนาดต่างๆ
   
13. ถุงมือยาง 14. ฟิล์มถนอมอาหาร
   
15. สปาตุล่า 16. ทัพพีมีรู

 

1. กุ้งแชบ๊วย 250 กรัม 2. มันหมู 25 กรัม
   
3. เกลือ 4. แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนชา
   
5. กระเทียมไทย 1/2 ช้อนโต๊ะ 6. รากผักชี 1/2 ช้อนโต๊ะ
   
7. พริกไทยขาวเม็ด 1 ช้อนชา 8. น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนชา
   
9. น้ำมันงา 1/4 ช้อนชา 10. ไข่ไก่ 3 ฟอง
   
11. เกล็ดขนมปังสำหรับชุบทอด 12. น้ำมันปาล์ม
   
13. พริกชี้ฟ้าแดง (สำหรับตกแต่ง) 14. ผักชี (สำหรับตกแต่ง)
   



      1. นำรากผักชีล้างน้ำให้สะอาด เพื่อจะทำ 3 เกลอ หลังจากนั้นเตรียมรากผักชี 1/2 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ และพริกไทยขาวเม็ด 1/2 ช้อนโต๊ะ

 

      2. ใส่พริกไทยขาวเม็ดลงไปตำให้ละเอียด ตามด้วยรากผักชี (แนะนำว่าให้ซอยก่อนเพื่อที่จะตำได้ง่าย) ใส่ครกตำจนแหลก และตามด้วยกระเทียม (แนะนำว่าให้ซอยก่อนเพื่อที่จะตำได้ง่าย) ตำทุกอย่างรวมกันจนละเอียดแล้วตักใสชามผสม

 

      3. นำมันหมูแข็งชั่งให้ได้ 25 กรัม แล้วทำการหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ (เล็กที่สุดหรือสับหยาบๆ) เสร็จแล้วนำใส่ชามผสม

 

      4. ทำการแกะกุ้งโดยการแกะเปลือกออกให้หมด เสร็จแล้วตักแป้งมัน 1 ช้อนชา คลุกให้ทั่ว หลังจากนั้นนำกุ้งไปล้างให้สะอาด

 

      5. ทำการผ่าหลังกุ้งเพื่อนำเส้นขี้ออก

 

      6. ใช้กระดาษทิชชู่ซับกุ้งให้แห้ง ก่อนสับกุ้งให้ใช้มีดตบกุ้งก่อน ค่อยทำการสับกุ้งให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำใส่ชามผสม

     


      1. ตักแป้งมันลงชามผสมเล็กน้อย ตามด้วยน้ำตาลทราย 1  1/2 ช้อนชา  น้ำมันงา 1/4 ช้อนชา และเกลือ 2 หยิบมือ

 

      2. นำชามผสมขึ้นตีบนอ่างน้ำแข็ง ทำการคลุกเคล้าบีบให้ส่วนผสมลอดผ่านนิ้วมือ ทำไปเรื่อยๆจนส่วนผสมเข้ากันดี และเหนียวได้ที่

 

      3. นำพลาสติกแร็ปใสหุ้มจาน ดึงให้ตึงเพื่อไว้สำหรับวางทอนมันที่ขึ้นรูปแล้ว

 

      4. หยิบทอดมันขึ้นมาปั้นเป็นลูกให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 นิ้ว กดให้แบนนิดหน่อย และกดตรงกลางทำเหมือนโดนัท เสร็จแล้ววางไว้บนพลาสติกแร็ปใสที่หุ้มจานเตรียมไว้ หลังจากนั้นนำไปแช่เย็นไว้ประมาณ 20-30 นาที

 

      5. นำหม้อขึ้นตั้งบนเตาใส่น้ำมันลงไปพอประมาณสำหรับทอด เสร็จแล้วเตรียมเกล็ดขนมปัง และทำการตอกไข่ใส่ถ้วย 3-4 ฟอง และตีให้เข้ากัน

 

      6. ใช้สปาตูล่าตักทอดมันขึ้นมาชุบไข่ แล้วก็ชุบเกล็ดขนมปัง แล้วกลับไปชุบไข่อีก 1 รอบ แล้วกลับมาชุบเกล็ดขนมปังอีก 1 รอบ (ทำจนครบหมดทุกชิ้น)

 

      7. หม้อน้ำมันร้อนแล้วทำการตักทอดมันที่ชุบไข่และเกล็ดขนมปังเรียบร้อยแล้วลงไป โดยใช้ไฟปานกลาง ทอดจนกว่าทอดมันทั้ง 2 ด้าน เป็นสีเหลืองทอง

 

      8. หากทอดมันเหลืองทองได้ที่ ก็ทำการตักทอดมันขึ้นพักบนตะแกรง โดยทำการรองด้วยกระดาษทิชชู่ เพื่อซับน้ำมัน หลังจากตักทอดมันขึ้นจนหมดแล้วทำการปิดเตาให้เรียบร้อย

 

 

      1. เตรียมผักชี และพริกชี้ฟ้าแดง เพื่อจัดตกแต่งจาน โดยเด็ดใบผักชีแช่น้ำ

      ตัดขั้วพริกชี้ฟ้าแดงออกแล้วทำการหั่นให้มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว เสร็จแล้วกรีดครึ่งนำไส้พริกออก และใช้มีดเฉือนด้านในที่เป็นสีขาวออก หลังจากนั้นก็ทำซอยบางๆ แล้วแช่น้ำ

 

      2. นำทอดมันที่คลายความร้อนแล้วจัดวางลงบนจาน ดังรูป

 

      3. นำใบผักชีที่แช่น้ำเตรียมไว้ขึ้นมาซับน้ำให้แห้ง แล้วนำมาวางตกแต่งด้านบนของทอดมันกุ้ง

 

      4. นำพริกที่ซอยเตรียมไว้ขึ้นมาซับน้ำให้แห้ง แล้วนำมาวางตกแต่งด้านบนของใบผักชี

 

      5. นำดอกไม้ทานได้ตกแต่งเพิ่มเติมให้สวยงาม

 

 

      1. การตำ 3 เกลอ ต้องตำเม็ดพริกไทยเป็นอันดับแรก ตามด้วยรากผักชี และกระเทียม เรียงลำดับตามนี้ เพราะว่าต้องตำของแห้ง และแหลกยากก่อน ตามด้วยรากผักชี และกระเทียมเพราะกระเทียมเปียกและมีน้ำเยอะสุด

 

      2. การตำรากผักชีต้องซอยรากผักชีก่อน เพราะจะทำให้ตำได้ง่ายไม่เป็นเสี้ยน และละเอียดเร็วขึ้น

 

      3. การใส่แป้งมันลงไปคลุกเคล้ากับกุ้งก่อนล้างเป็นการเพิ่มควมใส และเด้งให้กับตัวกุ้ง

 

      4. การนำชามผสมของทอดมันขึ้นตีบนอ่างน้ำแข็ง เพราะความเย็นจะช่วยให้เนื้อกุ้งรัดตัว และแน่นเด้ง

     ถั่วพู อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ ซี อี และยังเป็นผักที่มีโปรตีนสูง ซึ่งเป็นตัวช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายและทำให้ร่างกายแข็งแรง การรับประทานถั่วพูเป็นประจำจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันได้เป็นอย่างดี เพราะถั่วพูมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง

    

      ปริมาณของวัตถุดิบที่เชฟกำหนดเป็นเพียงสัดส่วนโดยประมาณ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบของแต่ละบุคคล โดยในที่นี้เชฟได้ปรับเปลี่ยนสัดส่วนของวัตถุดิบ ดังนี้

วัตถุดิบสำหรับยำถั่วพูกุ้งสด

  1. ถั่วพู 100 กรัม 9. เกลือ 1 ช้อนชา
  2. กุ้งแชบ๊วย 8 ตัว 10. น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
  3. หมูสับ 150 กรัม 11. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ตะไคร้ 25 กรัม 12. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  5. หอมแดง 6 หัว 13. น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ใบมะกรูด 4 ใบ 14. ไข่ต้ม 1 ฟอง
  7. พริกขี้หนู 10-15 เม็ด 15. พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด (สำหรับตกแต่ง)
  8. หัวกะทิ 7 ช้อนโต๊ะ 16. ยอดสะระแหน่ 2 ยอด (สำหรับตกแต่ง)
     

 

วัตถุดิบสำหรับทอดมันกุ้ง

  1. เนื้อกุ้งแช่บ๊วย 250 กรัม 8. น้ำตาลทราย 1  1/2 ช้อนชา
  2. มันหมูแข็ง  25 กรัม 9. น้ำมันงา 1/4 ช้อนชา
  3. เกลือ 1/2 ช้อนชา 10. ไข่ไก่ 4 ฟอง
  4. แป้งมันสำปะหลัง 1  1/2 ช้อนชา 11. เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วย (สำหรับชุบทอด)
  5. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ 12. น้ำมันปาล์ม
  6. รากผักชี 1/2 ช้อนโต๊ะ 13. พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด (สำหรับตกแต่ง)
  7. พริกไทยขาวเม็ด 1/2 ช้อนโต๊ะ 14. ผักชี 3 ต้น (สำหรับตกแต่ง)
    15. ดอกไม้กินได้ (สำหรับตกแต่ง)



 

 

<< Go Back