<< Go Back

     ขนมจีนน้ำยาเป็นอีกหนึ่งอาหารไทยรสชาติดี และขึ้นชื่อเรื่องความเข้มข้น การนำเส้นสีขาวที่เป็นแป้งหมัก มาทานคู่กับน้ำยาสูตรเด็ด ที่ให้ความอร่อยแบบเผ็ดร้อน กลายมาเป็นรสชาติที่เข้ากันได้อย่างลงตัว แต่ต้นกำเนิดจริงๆ ของขนมจีนคืออาหารเส้นของทางชาวมอญ ที่มีวิธีการทำเส้นคล้ายคลึงกัน เมื่อเกิดความแพร่หลายอาหารชนิดนี้ ก็มาปรากฏอยู่ในทุกภาค ของประเทศไทย ทางภาคเหนือจะเรียกว่าขนมเส้น ภาคใต้เรียกว่าหนมจีน และภาคอีสานเรียกว่าข้าวปุ้น ซึ่งขนมจีนที่ได้รับความนิยมมาก จะเป็นขนมจีนน้ำยาที่เป็นรสชาติต้นตำรับ
      เมื่อเวลาผ่านไปการพัฒนาเมนูขนมจีนน้ำยาก็มาสู่การเป็นน้ำยาปู สูตรเด็ดของชาวใต้ที่ให้รสชาติเข้มข้น ถึงเครื่องตามฉบับอาหารใต้แท้ จุดเด่นของเมนูนี้คือการใช้เนื้อปูแทนเนื้อปลา จึงให้ความเข้มข้นและรสชาติที่ดีเยี่ยม เวลาทานจะสัมผัสได้ถึงเนื้อปูเข้มข้นเต็มคำ เพื่อเพิ่มอรรถรสของขนมจีน บางบ้านจะใส่เนื้อปูหรือตัวปูลงไปอีกด้วย

 

1. เตาไฟฟ้า 2. ครก
   
3. เขียง 4. มีด
   
5. หม้อ 6. ทัพพี
   
7. ถ้วยเสิร์ฟ 8. มีดปอกผลไม้
   
9. ช้อนขนาดต่างๆ 10. ชามผสม
   

 

เครื่องโขลก

1. พริกชี้ฟ้าแห้งเม็ดเล็ก 5 เม็ด 2. พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5 เม็ด
   
3. หอมแดง ¼ ถ้วย 4. พริกชี้ฟ้าเหลือง 7 เม็ด
   
5. กระเทียมไทย 1 ช้อนโต๊ะ 6. ข่าแก่ 1 ช้อนโต๊ะ
   
7. ตะไคร้ (ซอย) 3 ช้อนโต๊ะ 8. ขมิ้นเหลืองสด 1 ช้อนโต๊ะ
   
9. พริกไทยดำ 1 ช้อนชา 10. พริกไทยขาว ½ ช้อนโต๊ะ
   
11. กะปิดี ปิ้งหอม 1 ช้อนโต๊ะ 12. ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
   
 
13. เกลือไทย ½ ช้อนชา  
   

เครื่องแกง

1. หัวกะทิ 1 ½ ถ้วย 2. เนื้อปู 300 กรัม
   
 
3. น้ำเปล่า ½ ถ้วย  
   
เครื่องปรุง
1. น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ 2. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
   
 
3. ส้มแขก 1-3 ชิ้น  
เครื่องดอง
1. มะละกอดิบ 2. กะหล่ำปลีขาว
   
3. ถั่วงอก 4. ใบโหระพา
   
5. แตงกวา 6. ผักกาดดอง
   
7. ไชโป๊วหวานซอยเส้น 8. ปูนแดง (น้ำปูนใส)
   
9. น้ำส้มสายชูหมัก 10. น้ำตาลทราย ไม่ฟอกสี
   
 
11. ดอกเกลือ  
เครื่องเคียง
1. เส้นขนมจีน 2. ไข่เป็ดยางมะตูม
   

 

การเตรียมเครื่องแกง

     1. นำพริกแห้งเม็ดใหญ่และพริกแห้งเม็ดเล็กที่แช่น้ำไว้ มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อง่ายต่อการตำ

 

     2. ซอยหอมแดงให้ละเอียด เพื่อง่ายต่อการตำ

 

    3. ซอยตะไคร้ให้ละเอียด เพื่อง่ายต่อการตำ

 

     4. ซอยข่าให้ละเอียด เพื่อง่ายต่อการตำ

 

     5. ซอยกระเทียมให้ละเอียด เพื่อง่ายต่อการตำ

 

     6. พริกชี้ฟ้าเหลืองจะใช้เฉพาะผิวด้านนอก โดยเอาแกนกลางและเม็ดออกก่อน จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อง่ายต่อการตำ

 

     7. ตำพริกแกงโดยใส่วัตุดิบที่ตำละเอียดยากที่สุดก่อนตามลำดับ เริ่มจากการใส่พริกแห้งเม็ดใหญ่ พริกแห้งเม็ดเล็ก พริกไทยขาว พริกไทยดำ ตามด้วยตะไคร้ และข่า ตำจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นใส่หอมแดง พริกชี้ฟ้าเหลือง กระเทียม และเกลือ ตำจนได้เนื้อแกงที่เนียนแล้วใส่กะปิ สุดท้ายใส่ผิวมะกรูดตำต่อจนได้พริกแกงเนื้อหนาเนียนแล้วตักพักไว้

 

     8.  โขลกขมิ้น โดยนำขมิ้นใส่ถุงพลาสติกแล้วใช้สากตำ แยกส่วนพักไว้

 

     9. ทำหางกะทิโดยผสมหัวกะทิ 1 ส่วน ต่อน้ำเปล่า 2 ส่วน

 

     1. นำหางกะทิไปตั้งไฟให้เดือด

 

     2. หางกะทิเดือดใส่พริกแกงลงไปตามด้วยขมิ้น คนผสมให้เข้ากันจากนั้นใส่หัวกะทิลงไปทีละเล็กน้อย หมั่นคนจนส่วนผสมเดือดเคี่ยวจนมีกลิ่นหอม

 

     3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว

 

     4. ปรุงรสด้วยส้มแขก

 

     5. ปรุงรสด้วยน้ำปลา

 

     6. เร่งไฟเพิ่มเล็กน้อยใส่เนื้อปูลงไปโดยไม่ต้องคน

 

     7. ใส่หัวกะทิที่เหลือทั้งหมด

 

     8. ต้มไว้ให้เดือดสักพักแล้วดับไฟพักไว้

 

เตรียมผัก

     1. ตัดขั้วตัดท้ายและปอกเปลือกมะละกอล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด

 

     2. นำมะละกอไปขูดเป็นเส้นมีขนาดสั้นและหนา

 

     3. ทำน้ำปูนใส โดยใช้น้ำเปล่าผสมกับปูนใสทิ้งไว้ให้ตกตะกอนประมาณ 10-15 นาที

 

     4. ล้างยางมะละกอโดยเทน้ำปูนใสลงไปให้ท่วมเส้นมะละกอที่ขูดไว้ จากนั้นนำไปล้างน้ำเปล่าอีกรอบ

 

     5. ตั้งไฟอ่อนๆ ใส่น้ำส้มสายชูหมัก น้ำตาลทราย ดอกเกลือ คนไปเรื่อยๆ ให้ละลายหมดเป็นน้ำเดียวกัน

 

     6. นำมะละกอที่แช่ไว้สะเด็ดน้ำให้แห้ง ใส่ในน้ำดองที่เตรียมไว้ สามารถตกแต่งสีสันด้วยขมิ้น คนให้เข้ากันแล้วพักไว้

 

     7. ซอยหัวไชโป้วหวานเป็นเส้นๆ ยาวประมาณ 1 นิ้ว

 

     8. หั่นผักกาดดองโดยใช้ใบติดก้านเป็นเส้นๆ ยาวประมาณ 1 นิ้ว

 

     9. ซอยกะหล่ำปลีเป็นเส้นบางๆ

 

     10. นำมะละกอออกจากน้ำดอง


 

     1. แยกขนมจีนพักไว้

 

     2. ใส่กะหล่ำปลีในจานเสิร์ฟ

 

     3. หั่นแตงกวาใส่จานเสิร์ฟ

 

     4.  เด็ดโหระพาใส่จานเสิร์ฟ

 

     5. นำมะละกอดอง หัวไชโป้วหวาน และผักกาดดองใส่จานเสิร์ฟ

 

     6. ตกแต่งขนมจีนด้วยไข่เป็ดยางมะตูม และถั่วงอก

 

7. ตักน้ำยาปูใส่ถ้วยเสิร์ฟ

 

    1. การหั่นพริก แนะนำให้ใส่ถุงมือเพื่อไม่ให้เกิดอาการแสบร้อนที่ผิวหนัง
    2. พริกไทยขาวและพริกไทยดำช่วยดูดซับน้ำในขั้นตอนการโขลกเครื่องแกง
    3. การใส่เกลือจะช่วยให้การโขลกเครื่องแกงละเอียดเร็วขึ้น
    4. การปรุงรสด้วยน้ำปลา ควรใส่ในขณะที่แกงยังร้อนเพื่อไม่ให้มีกลิ่นคาว

 

        ไชโป๊ หรือ หัวไชโป๊ คือ ผักกาดหัวดองเกลือ มีสองแบบคือ ดองเค็มซึ่งเป็นการโรยเกลือสลับกับผักกาดหัวเป็นชั้น ๆ ทับด้วยของหนัก ใช้เวลาประมาณ 10 วัน อีกแบบคือใชโป๊หวาน นำหัวผักกาดมาตากแดด และเรียงในบ่อตอนกลางคืน โรยเกลือสลับ ทำสลับระหว่างตากแดดและหมักเกลือ 5-6 วัน จึงนำไปดองแบบดองเค็ม ตากแดด 3-4 แดด จากนั้นปรุ่งรสโดยโรยน้ำตาลทรายแดง ผงโป๋ยกั๋ก เหล้าจีน ขยำให้เข้ากัน อัดใส่ไหหมักไว้ 1 เดือน ไชโป๊นี้ทำอาหารได้หลายชนิด เช่น ใส่ไข่เจียว ยำกับพริก มะนาวดอง ใส่ในผัดไทยและก๋วยเตี๋ยวชากังราว

 

     ปริมาณของวัตถุดิบที่เชฟกำหนดเป็นเพียงสัดส่วนโดยประมาณ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบของแต่ละบุคคล โดยในที่นี้เชฟได้ปรับเปลี่ยนสัดส่วนของวัตถุดิบ ดังนี้
     เครื่องโขลก
           1. พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5 เม็ด
           2. พริกชี้ฟ้าแห้งเม็ดเล็ก 5 เม็ด
           3. พริกชี้ฟ้าเหลือง 4 เม็ด
           4. กระเทียมไทย 1 ช้อนโต๊ะ
           5. ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
           6. ขมิ้นเหลืองสด 1 ช้อนโต๊ะ
           7. ตะไคร้ (ซอย) 2 ช้อนโต๊ะ
           8. ข่าแก่ 1 ช้อนโต๊ะ
           9. กะปิดี ปิ้งหอม 1 ช้อนโต๊ะ
           10. หอมแดง ¼ ถ้วย
           11. พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
           12. พริกไทยขาว ½ ช้อนโต๊ะ
           13. เกลือไทย ½ ช้อนชา
     เครื่องแกง
           1. หัวกะทิ 1 ½ ถ้วย
           2. เนื้อปู 300 กรัม
           3. น้ำเปล่า ½ ถ้วย
     เครื่องปรุง
           1. น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
           2. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
           3. ส้มแขก 1 ชิ้น
     เครื่องเคียง
           1. เส้นขนมจีน
           2. ไข่เป็ดต้มยางมะตูม 1 ฟอง
     เครื่องดอง
           1. มะละกอดิบ 1 ถ้วยตวง
           2. กะหล่ำปลีขาว 1 ถ้วยตวง
           3. ถั่วงอก 1 ถ้วยตวง
           4. ใบโหระพา 10-15 ใบ
           5. แตงกวา 1 ลูก
           6. ผักกาดดอง 1 ถ้วยตวง
           7. ไชโป๊วหวานซอยเส้น 1 ถ้วยตวง
           8. ปูนแดง (น้ำปูนใส) 1 ช้อนชา
           9. น้ำส้มสายชูหมัก 1 ถ้วยตวง
           10. น้ำตาลทราย ไม่ฟอกสี 1 ช้อนโต๊ะ
           11. ดอกเกลือ 1 ช้อนชา

  



<< Go Back