ลักษณะของพริกหวาน
พริกหวาน มีลักษณะกลมยาว มีขนาดใหญ่ ในผลจะประกอบไปด้วยสารให้ความเผ็ดหรือ Capsaicin ในปริมาณที่ต่ำมาก ส่วนผลนั้นโดยทั่วไปจะเป็นสีเขียว ถ้าปล่อยให้แก่บนต้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่บางสายพันธุ์ที่ถูกปรับปรุงพันธุ์ขึ้นมาใหม่ อาจจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม หรือสีม่วงก็ได้ โดยพริกสีเขียวจะประกอบไปด้วยสารคลอโรฟิลล์ พริกสีแดงหรือเหลืองจะเกิดจากเมล็ดสีแคโรทีนอยด์ ส่วนพริกสีม่วงจะเกิดจากเม็ดสีแอนโธไซยานิน และสีน้ำตาลจะเกิดจากการผสมระหว่างคลอโรฟิลล์ ไลโคปีน และเบต้าแคโรทีน ผลจะมีรูปทรงและขนาดแตกต่างกันออกไป บางพันธุ์อาจมีเปลือกหนา แต่บางพันธุ์จะบาง ผลมีขนาดกว้างประมาณ 1-15 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1-30 เซนติเมตร ผลแก่ที่เปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง ส้ม หรือม่วง จะมีปริมาณของวิตามินเอสูงกว่าเดิมถึง 10 เท่า และมีวิตามินซีสูงกว่า 2 เท่า
สรรพคุณของพริกหวาน
- ช่วยบำรุงธาตุในร่างกายและช่วยทำให้เจริญอาหาร
- สาร Capsaisin จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำลาย
- เมื่อร่างกายได้รับสาร Capsaisin ร่างกายจะสร้างสาร Endorphins ที่ช่วยในการผ่อนคลายความเครียด
- พริกหวานสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ เพราะทำให้หลอดเลือดอ่อนตัว และช่วยทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดเป็นได้ด้วยดี
- พริกหยวกมีสรรพคุณช่วยแก้อาเจียน ช่วยขับเหงื่อ ขับเสมหะ และช่วยขับลม
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
- ช่วยแก้หิด และกลากเกลื้อน
ประโยชน์ของพริกหวาน
- พริกหวานมีรสชาติหวานและไม่เผ็ด สามารถนำมารับประทานสดในสลัดหรือนำมาผัดกับผักชนิดอื่น ๆ หรือนำมาใช้กับเนื้อสัตว์ ยัดไส้เนื้อหมู ชุบแป้งทอด หรือนำไปอบหรือนึ่งก็ได้ ที่สำคัญทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถรับประทานได้ มีสีสันที่น่ารับประทาน อีกทั้งอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมสูง ซึ่งพริกหวานสีเหลืองจะมีวิตามินมากกว่าพริกหวานสีส้มถึง 4 เท่า
- พริกหวานมีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้
- สาร Capsaisin สามารถช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระได้ จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือด และโรคต้อกระจก
ขอบคุณเนื้อหาเพิ่มเติม
https://medthai.com/พริกหวาน
|