โคเลสเตอรอลคืออะไร
โคเลสเตอรอล คือ ไขมันชนิดหนึ่ง ร่างกายได้รับโคเลสเตอรอลจาก 2 ทาง คือ อาหาร ส่วนใหญ่มีที่มาจากสัตว์ ได้แก่ ไข่แดง เครื่องในต่างๆ และสัตว์ที่มีกระดอง สร้างขึ้นเองในร่างกาย จากการเผาผลาญสารอาหารคาร์โบไอเดรต ไขมัน หรือ โปรตีนภายในร่างกาย
สาเหตุ
เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีโคเลสเตอรอลและไขมันอิ่มตัวมาก อาจเกิดจากการผิดปกติทางกรรมพันธุ์หรือเป็นโรคบางอย่าง เช่น โรคไต โรคเบาหวาน ที่ไม่ได้รับการรักษา โรคต่อมไธรอยด์ทำงานได้น้อย เป็นต้น
อาการ
อาจมีอาการแสดงต่อไปนี้ คือ มีปื้นสีเหลืองที่ผิวหนัง เช่น ที่หนังตา ข้อศอก เข่า ฝ่ามือ เป็นต้น เอ็นร้อยหวายหนาตัวขึ้น ตรงขอบนอกของกระจกดำ จะมีเส้นโค้งสีขาวเป็นรูปครึ่งวงกลม ความผิดปกติเหล่านี้ เกิดจากการที่โคเลสเตอรอลไปจับที่เนื้อเยื่อดังกล่าว นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการที่เกิดจากโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองตีบได้
อันตรายจากโคเลสเตอรอล
การมีโคเลสเตอรอลสูงในเลือดจะทำให้เกิดพยาธิ สภาพที่หลอดเลือดแดง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเป็นโรคหัวใจขาดเลือด วินิจฉัยโดยการตรวจระดับโคเลสเตอรอลในเลือดไม่ควรเกิน 200 มล./ดล.
การป้องกันและการรักษา
จำกัดการรับประทานอาหารไขมัน โดยการรับประทานไขมันไม่เกินร้อยละ 30 ของพลังงานทั้งหมดที่ได้รับ รับประทานกรดไลโนเลอิกอย่างเพียงพอ พบในทานตะวัน ดอกคำฝอย ถั่วเหลือง เป็นต้น ให้ได้ร้อยละ 10 ของพลังงานทั้งหมดที่ได้รับ เพราะกรดไลโนเลอิกมีฤทธิ์เพิ่มการขับถ่ายโคเลสเตอรอลออกจากร่างกาย รับประทานโคเลสเตอรอลให้น้อยลง ควรรับประทานโคเลสเตอรอลให้น้อยกว่า 300 มิลลิกรัม/วัน ในทางปฏิบัติทำได้โดยไม่กินเครื่องในสัตว์ทุกวัน โดยเฉพาะพวกสมองหรือหนังเป็ด หนังไก่ กะทิ นม เนย
ข้อควรปฏิบัติเมื่อระดับไขมันในเลือดสูง
1. ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายอื่นๆ ให้ครบถ้วน เพื่อหาสาเหตุและภาวะแทรกซ้อน
2. จำกัดอาหาร ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ได้แก่ ไขมันเนื้อสัตว์ นม เนย ไอศครีม ไข่แดง อะโวคาโด ยกเว้นปลา ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ได้แก่ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ ไขมันปรุงแต่ง จำกัดอาหารแต่ละวัน ไม่ควรมีโคเลสเตอรอลเกิน 300 มิลลิกรัม
3. ควรงดเหล้า โดยเฉพาะถ้ามีไตรกลีเซอไรด์สูง
4. ควรลดความอ้วน และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ
5. งดสูบบุหรี่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มไขมัน HDL
6. การพิจารณาให้ยาลดระดับไขมันในเลือด ควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์
ขอบคุณเนื้อหาเพิ่มเติม
https://www.saintlouis.or.th/article/show/_9-6-2019-13:15
|