อาหาร คือ สิ่งที่เรารับประทานได้และไม่เป็นพิษต่อร่างกายและก่อให้เกิดประโยชน์ต่างๆ ต่อร่างกาย สามารถช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตแข็งแรงและต้านทานโรคต่าง ๆ ได้ หมู่ที่ 1 โปรตีน ได้แก่ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ นม ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง ที่มา : https://www.hongthongrice.com/v2/blog/beauty-health/food-category-5/ ประโยชน์ ช่วยทำให้ร่างกายเจริญเติบโต ทั้งยังช่วยสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ช่วยต้านโรคต่าง ๆ และควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆของร่างกาย เช่น การพูด การหายใจ สำหรับคนทั่วไปควรได้รับโปรตีน 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และควรออกกำลังกาย ควรได้รับโปรตีน 2-3 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมหมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว เผือก มัน แป้ง น้ำตาล ที่มา : https://www.hongthongrice.com/v2/blog/beauty-health/food-category-5/ ประโยชน์ ให้พลังงานแก่ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้ เช่น การเดิน การวิ่ง หรือการเคลื่อนไหวอื่น ๆ สำหรับคนทั่วไป ควรได้รับคาร์โบไฮเดรต 3 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และควรออกกำลังกาย ควรได้รับคาร์โบไฮเดรต 2-3 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมหมู่ที่ 3 เกลือแร่และแร่ธาตุได้แก่ ผักใบเขียว และผักอื่น ๆ ทั้งประเภทดอกและผล ที่มา : https://www.hongthongrice.com/v2/blog/beauty-health/food-category-5/ ประโยชน์ เสริมสร้างการเจริญเติบโตทั้งยังควบคุมการทำงานของอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย และช่วยป้องกันโรค หมู่ที่ 4 วิตามิน ได้แก่ ผลไม้ต่าง ๆ ที่มา : https://www.hongthongrice.com/v2/blog/beauty-health/food-category-5/ ประโยชน์ ผลไม้ต่าง ๆ อุดมไปด้วยวิตามิน ช่วยป้องกันโรค ลดคอเลสเตอรอล ช่วยในระบบย่อยอาหาร ควรกินผลไม้และผลไม้อย่างน้อยให้ถึง 400 กรัมต่อคนต่อวัน หมู่ที่ 5 ไขมัน ได้แก่ ไขมันจากพืชและไขมันจากสัตว์ ที่มา : https://www.hongthongrice.com/v2/blog/beauty-health/food-category-5/ ประโยชน์ ช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย ช่วยในการดูดซึมของวิตามินและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ดังนั้นการรับประทานอาหาร 5 หมู่อาจยังไม่เพียงพอ สิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปด้วยคือการออกกำลังกาย ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ดีและลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายได้การประกอบอาหาร เป็นการปรุงอาหารเพื่อรับประทานด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อให้อาหารที่ปรุงแล้วมี สี กลิ่น และรสชาติที่น่ารับประทาน วิธีการประกอบอาหาร 1. การต้ม เป็นการนำอาหารไปต้มในน้ำเดือดเพื่อให้อาหารสุก แต่วิธีการต้มจะทำให้สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ เช่น วิตามินหรือแร่ธาตุในอาหารอาจหายไปอยู่ในน้ำที่เราใช้ต้ม 2. การผัด เป็นวิธีที่ง่ายไม่ค่อยมีขั้นตอนยุ่งยากนัก ก่อนผัดทุกครั้งเราจะต้องนำกระทะไปตั้งไฟจนร้อนก่อนที่จะใส่วัตถุดิบต่าง ๆ ลงในกระทะ ในการผัดนิยมใช้ตะหลิวเพื่อกลับอาหารในกระทะ เมื่ออาหารสุกก็ปรุงรสและนำออกจากกระทะใส่จานที่ต้องการ อาหารประเภทผัดนิยมเสิร์ฟขณะที่อาหารร้อน 3. การทอด เป็นการทำให้อาหารสุก โดยใส่น้ำมันในกระทะหรือหม้อให้ท่วมอาหารที่จะทอด ใช้ไฟปานกลาง รอจนน้ำมันร้อนจึงใส่อาหารลงในน้ำมันที่ตั้งไว้ ทิ้งไว้จนอาหารค่อนข้างเหลืองจึงนำขึ้นจากน้ำมัน ตัวอย่าง การทอดไข่ดาว ชนิดของไข่ดาว Sunny Side Up ไข่ดาวแบบไม่กลับที่ไข่ขาวยังไม่สุกดี และไข่แดงไม่สุกที่มา : https://www.wongnai.com/food-tips/fried-eggs Over Easy ไข่ดาวแบบกลับ ที่ไข่แดงไม่สุก ที่มา : https://www.wongnai.com/food-tips/fried-eggs Over Medium ไข่ดาวแบบกลับ ไข่แดงเกือบสุกแต่ยังเยิ้ม ๆ ตรงกลาง ที่มา : https://www.wongnai.com/food-tips/fried-eggs Over hard ไข่ดาวแบบกลับที่สุกทั้งใบ ที่มา : https://www.wongnai.com/food-tips/fried-eggs 4. การนึ่ง เป็นการทำให้อาหารสุกโดยใช้ความร้อนจากไอน้ำ เช่น การทำไข่ตุ๋น การนึ่งข้าวเหนียว ที่มา : https://food.mthai.com/food-recipe/119094.html 5. การย่าง เป็นการทำให้อาหารสุก โดยนำเอาอาหารไปวางบนตะแกรงเหนือเปลวไฟ ส่วนใหญ่การทำอาหารให้สุกโดยการย่างจะใช้เตาถ่าน แต่สมัยนี้นิยมใช้เตาไฟฟ้าแทน จะใช้ไฟอ่อนหรือไฟปานกลางขึ้นอยู่กับชนิดของอาหาร หมั่นพลิกกลับไปมา จนอาหารสุกเหลือตามต้องการ |