ข้าวหน้าเนื้อหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า Gyudon เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 150 ปีก่อน ในสมัยก่อน คนญี่ปุ่นถูกห้ามเรื่องการกินเนื้อเป็นอาหาร จนกระทั่งปี 1862 เริ่มมีคนทำอาหารโดยใช้เนื้อวัว ซึ่งอาหารนั้นใช้ชื่อว่า Gyunabe Gyu หมายถึง เนื้อวัว nabe หมายถึง หม้อ หรือคนไทยรู้จักกันในชื่อของสุกียากี้เนื้อแบบญี่ปุ่นที่มีน้ำสีดำ ต่อมาปี 1867 เริ่มมีธุรกิจขายเนื้อเกิดขึ้น โดยคุณ Kahei Nakagawa เป็นคนแรกที่ขายเนื้อ และได้เปิดร้านอาหาร Gyunabe ขึ้นที่เมืองโตเกียว ในช่วงแรกที่เขาเปิดร้าน Gyunabe ก็ยังไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่น แต่เขาก็ได้ปรับปรุงสูตรเรื่อยมา จนความนิยมเริ่มมากขึ้น ทำให้ร้านของเขาได้ขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนจะไปได้อย่างสวยงาม แต่ปัญหาของ Gyunabe คือ ราคาอาหารที่ค่อนข้างสูงสำหรับคนทั่วไป หลายคนจึงต้องการกินอะไรที่ถูกและง่ายกว่า จึงเกิดเป็นเมนูใหม่ที่ชื่อว่า Gyumeshi Gyumeshi คือ การราดน้ำของ Gyunabe และเนื้อ ลงไปบนข้าวหรือเมนูนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Gyudon นั่นเอง
ขิงดองญี่ปุ่น
ข้าวหน้าเนื้อภูเขาไฟ (Volcano Gyu Don)
1. ใส่น้ำส้มสายชูหมัก 90 กรัม ในกระทะ
2. ใส่น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
3. ใส่เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
4. นำกระทะตั้งไฟ ใช้ไม้พายคนให้น้ำตาลละลาย ปิดไฟวางพักไว้ให้เย็น
5. หั่นขิงเป็นแผ่นบาง 100 กรัม
6. ซอยขิงตามยาว
7. ต้มน้ำให้เดือดแล้วปิดไฟ นำไข่ไก่ลงแช่ ปิดฝาหม้อพักไว้ 20 นาที
8. นำขิงซอยใส่ถ้วย แล้วแช่ด้วยน้ำดองที่เตรียมไว้ 9. ใช้ฟิล์มถนอมอาหารคลุมไว้แล้วนำไปแช่ตู้เย็น
การทำซอส 1. ใส่น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ ลงในกระทะ
2. ใส่สาเก 6 ช้อนโต๊ะ
3. ใส่มิริน 4 ช้อนโต๊ะ
4. ใส่ซีอิ๊วญี่ปุ่น 2 ช้อนโต๊ะ
5. นำตั้งไฟและคนให้เข้ากันจนเดือด แล้วใส่ถ้วยพักไว้
6. หั่นหอมใหญ่ตามยาว 100 กรัม
7. หั่นต้นกระเทียมแบบเฉียง แล้วนำไปล้าง
8. หั่นเนื้อสไลด์ 3 ท่อน ยาวเท่าๆกัน แยกเนื้อออกเป็นชิ้นๆ
9. นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันเล็กน้อย
10. ใส่หอมใหญ่ลงผัดจนใส
11. ใส่เนื้อสไลด์ แล้วผัดต่อจนเนื้อใกล้สุก
12. ใส่ต้นกระเทียมลงผัด
13. ใส่ซอสที่เตรียมไว้ ให้พอมีน้ำขลุกขลิก
14. เร่งไฟแรงให้เดือด แล้วปิดไฟได้เลย
1. ซอยต้นหอม
2. ตักข้าวใส่ถ้วย ทำให้เป็นรูปภูเขา
3. ตักเนื้อราดบนข้าวให้เป็นทรงสูง
3. โรยพาร์เมซานชีส แล้วนำเข้าเตาอบ 5 นาที หรือ จนกว่าชีสจะละลาย
4. ตอกไข่ออนเซ็นไว้ตรงกลาง
5. ใช้ Torch เบิร์นชีสให้ไหม้เกรียมเล็กน้อย
6. ตกแต่งด้วยขิงดองญี่ปุ่น
7. โรยต้นหอมซอยเล็กน้อย
1. การทำไข่ออนเซ็น ต้มน้ำให้เดือดแล้วปิดไฟ จากนั้นนำไข่ลงแช่ในน้ำ 20 นาที โดยปิดฝาหม้อไว้
2. การนำชีสโรยแล้วเข้าเตาอบ จะได้ชีสแบบละลาย น่าทานยิ่งขึ้น
ไข่ออนเซ็นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น แรกเริ่มเดิมทีคือชื่อที่ใช้เรียกไข่ซึ่งนำไปแช่ในบ่อน้ำพุร้อนออนเซ็นจนสุกพอดีๆ ไข่ขาวเป็นวุ้น ไข่แดงเนื้อนุ่มแบบพุดดิง ต่อมาไข่ที่สุกระดับนี้ฮอตฮิตติดลมบน คนจึงเรียกไข่แบบนี้ว่าไข่ออนเซ็นกันหมด แม้ว่าอาจจะไม่ได้ทำให้สุกด้วยการนำไปแช่บ่อออนเซ็นแล้วก็ตาม ปริมาณของวัตถุดิบที่เชฟกำหนดเป็นเพียงสัดส่วนโดยประมาณ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบของแต่ละบุคคล โดยในที่นี้เชฟได้ปรับเปลี่ยนสัดส่วนของวัตถุดิบ ดังนี้ 1. ขิง 100 กรัม |