เทอโมมิเตอร์ในการปรุงอาหารและวัดอุณหภูมิเนื้อสัตว์ เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อที่จะไม่ต้องคาดเดาในการปรุงอาหาร เนื่องจากการวัดอุณหภูมิภายในเนื้อสัตว์และสัตว์ปีกที่ปรุงสุกหรือหม้อปรุงอาหารใดๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามีระดับอุณหภูมิที่ปลอดภัย เพื่อทำลายแบคทีเรียที่เป็นอันตรายและอาหารของกำลังปรุงอย่างสมบูรณ์แบบ เทอโมมิเตอร์บางตัวจะถูกใส่เข้าไปวัดอุณหภูมิในอาหาร ในช่วงเริ่มต้นของกระบวนการปรุงอาหาร และยังคงอยู่ที่นั่นจนกว่าอุณหภูมิภายในที่เหมาะสม
ประโยชน์ของเทอร์โมมิเตอร์อาหาร
1) ปรุงอาหารในอุณหภูมิที่ปลอดภัย
2) ป้องกันไม่ให้สุกเกินไปและได้รสชาติที่ดีที่สุด
3) จัดเก็บอาหารอย่างปลอดภัย
วิธีใช้เทอร์โมมิเตอร์อาหารในการทำอาหาร
ในการใช้เทอร์มอมิเตอร์วัดอุณหภูมิในการปรุงอาหารหรือเนื้อสัตว์ ให้สอดเข้าไปทางด้านไขมันของเนื้อ โดยระวังอย่าให้โดนกระดูก กระดูกนำความร้อนได้เร็วขึ้น และจะอ่านอุณหภูมิภายในของเนื้อสัตว์ที่ผิดพลาด
ตำแหน่งที่จะใส่หัววัดโพรบของเทอร์โมมิเตอร์อาหาร
ตำแหน่งที่จะใส่หัววัดของเทอโมมิเตอร์เพื่อให้เป็นตัวบ่งชี้ที่ถูกต้อง ต้องใส่เครื่องวัดอุณหภูมิเนื้ออย่างถูกต้อง พื้นที่ตรวจจับของเทอร์มอมิเตอร์มีความยาวประมาณ 1 นิ้วถึง 2 นิ้ว และพื้นที่นี้จะต้องแช่อยู่ในบริเวณที่ลึกที่สุดของอาหาร
1) สัตว์ปีก : สอดหัววัดโพรบไว้ในบริเวณต้นขาด้านในใกล้แต่ระวัดไม่สัมผัสกระดูก
2) เนื้อแดงย่างสเต็กหรือเนื้อบด : ใส่หัววัดโพรบตรงกลางของส่วนที่หนาที่สุดห่างจากกระดูกไขมันและเนื้อหยาบ
3) เนื้อบดและสัตว์ปีก : ใส่หัววัดโพรบในบริเวณที่หนาที่สุดของก้อนเนื้อ
4) หม้อตุ๋นและไข่ : ใส่หัววัดโพรบตรงกลางหรือบริเวณที่หนาที่สุด
ข้อควรระวัง : หลังการใช้งานทุกครั้งให้ล้างก้านเทอร์มอมิเตอร์ให้สะอาดในน้ำหรือน้ำยาขจับคราบไขมัน
วิธีทดสอบความแม่นยำของเทอร์โมมิเตอร์อาหาร
เทอร์โมมิเตอร์อาหารแบบหน้าปัดหรือแบบดิจิตอล ส่วนใหญ่มีความแม่นยำอยู่ในช่วงบวกหรือลบ 1 ถึง 2 องศาเซลเซียส สามารถตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องวัดอุณหภูมิเนื้อสัตว์ได้ และเทอโมมิเตอร์จะ “ปรับเทียบ” หากจำเป็น ควรตรวจสอบเครื่องวัดอุณหภูมิเป็นระยะ ทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตเทอร์มอมิเตอร์แบบหน้าปัด บางรุ่นมีน็อตสอบเทียบอยู่ใต้หน้าปัด ซึ่งสามารถปรับได้โดยการบิดน็อตเล็ก ๆ ที่อยู่ใต้หน้าปัดด้วยคีม
ขอบคุณเนื้อหาเพิ่มเติม
https://www.neonics.co.th/thermometer-knowledge/เทอร์โมมิเตอร์อาหาร.html
|