แกงกะหรี่ญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: โรมาจิ: อังกฤษ: Japanese curry) เป็นหนึ่งในอาหารที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น โดยทั่วไปจะเสิร์ฟในสามรูปแบบหลักคือ ข้าวแกงกะหรี่ (แกงกะหรี่ที่ราดบนข้าว) อูดงแกงกะหรี่ (แกงกะหรี่ที่ราดบนเส้น) และขนมปังแกงกะหรี่ (แกงกะหรี่ที่มีไส้ในขนมปัง) ข้าวแกงกะหรี่โดยทั่วไปจะเรียกสั้น ๆ ว่า แกงกะหรี่
การทำแกงกะหรี่ญี่ปุ่นมีผักและเนื้อสัตว์ที่ใช้แตกต่างกัน ผักพื้นฐานคือ หอมใหญ่ แคร์รอต และมันฝรั่ง สำหรับเนื้อสัตว์ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่ซึ่งเป็นที่นิยม คัตสึกาเร เป็นทงกัตสึที่ราดซอสแกงกะหรี่
แกงกะหรี่เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงยุคเมจิ (ค.ศ. 1868–1912) ที่นำเข้ามาจากอังกฤษในช่วงที่อินเดียอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แกงกะหรี่กลายเป็นที่นิยมและมีขายในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 ได้มีการปรับปรุงมากขึ้นตั้งแต่มีการเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่นและมีการบริโภคกันอย่างแพร่หลาย จนถูกเรียกว่าเป็นอาหารประจำชาติ
|
|
1. หม้อ |
2. ทัพพี |
|
|
|
|
3. เขียง |
4. มีด |
|
|
|
|
5. ชามผสม |
6. ตะกร้อ |
|
|
|
|
7. ช้อน |
8. ส้อม |
|
|
|
|
9. เตาไฟฟ้า |
10. กระทะ |
|
|
|
|
11. จานเปล |
12. ถ้วยตวง |
|
|
|
|
13. จาน |
14. ตะแกรง |
|
|
|
15. ที่คีบ |
ขั้นตอนการทำส่วนของน้ำแกง
1. ต้มน้ำให้เดือด และหั่นหอมหัวใหญ่ 5 ลูก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เซนติเมตร หรือใหญ่กว่าเล็กน้อยแล้วใส่ลงไปในหม้อ
2. หั่นมันฝรั่ง 2 หัว เป็นลูกเต๋าใส่แล้วลงไปในหม้อ
3. หั่นแครอท 3 หัว โดยวางมีดเฉียงและหั่นเฉียงให้ชิ้นแครอทติดไส้แล้วใส่ลงไปในหม้อ
4. หั่นกระเทียม 10 กลีบ โดยทาบมีดลงบนกระเทียมแล้วกดและแกะเปลือกออก จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กแล้วใส่ลงไปในหม้อ
5. หั่นหมูเนื้อแดงพอดีคำหรือใช้แบบแล่บางๆ สำเร็จรูปก็ได้ แล้วใส่ลงไปในหม้อ
6. ลดไฟลงเล็กน้อย จากนั้นปรุงรสโดยใส่โชยุ น้ำผลไม้ (ใส่ได้ตามความชอบ) และเนยเค็ม จากนั้นเร่งไฟและต้มต่ออีก 30 นาที
7. เช็คความเปื่อยของผัก(เช็คแครอทเพราะมีเนื้อที่แข็งที่สุด) ที่ต้มผ่านไป 30 นาที ถ้าเปื่อยแล้วใส่ก้อนแกงกะหรี่ ลงไปจากนั้นคนให้ละลาย
8. ตามด้วยพริกเกาหลีและเกลือจากนั้นชิมรสชาติ ตามด้วยน้ำมันพืชเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเงาของน้ำแกง และต้มต่ออีก 30 นาที
ขั้นตอนการทอดเทมปุระ(กุ้งและข้าวโพดอ่อน)
1. ตวงแป้งทอดกรอบ 1 ถ้วยตวง ลงไปในชามผสม
2.
ตอกไข่ไก่ 1 ฟอง ตามด้วยเกลือเล็กน้อย
3. ค่อยๆ เทน้ำเย็นจัดลงไปโดยใช้ตะกร้อมือตีวนเป็นวงกลมไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเกิดความข้น ซึ่งสามารถใช้ตะกร้อยกน้ำแป้งขึ้นถ้าหยดเป็นสายเป็นอันใช้ได้จากนั้นพักไว้
4. หั่นข้าวโพดอ่อนเป็นแนวตามยาว
5. ล้างกุ้งด้วยน้ำสะอาดและปอกเปลือก
6. ผ่าหลังกุ้ง 4 ท่อนเพื่อนำไส้กุ้ง(ขี้กุ้ง) ออก จากนั้นนำไปล้างน้ำ
7. ทำการยืดตัวกุ้งโดยการวางตัวกุ้งโดยเอาด้านท้องคว่ำลงจากนั้นกดด้านหลังกุ้งให้นาบไปกับพื้น
8. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟ 100-120 องศา รอน้ำมันร้อน จากนั้นสาดแป้งเปียก(แป้งที่ผสม) ลงในกระทะ
9. จับที่หางกุ้งชุบแป้งแล้วร่อนพลิกไปมา ในน้ำมันทอดจนเหลืองพอดีจากนั้นใช้ที่คีบ คีบกุ้งขึ้นพักบนตะแกรง
10. นำข้าวโพดอ่อนทั้งหมดที่เตรียมไว้ชุบแป้งลงทอด จากนั้นสาดแป้งตามอีกครั้ง ทอดจนเหลืองพอดีจากนั้นใช้ที่คีบ คีบข้าวโพดขึ้นพัก
1. ตักข้าวใส่จานโดยจะใส่ครึ่งจาน
2. จัดเรียงกุ้งและข้าวโพดไว้บนข้าว
3. ตักน้ำแกงกะหรี่ญี่ปุ่นไว้ด้านข้างโดยตักเนื้อหมูและผักก่อน จากนั้นตามด้วยน้ำแกง
4. ตกแต่งจานด้วย
- ทองคำเปลวแท้แผ่นรับประทานได้
- ดอกไม้รับประทานได้ เช่น ดอกมะลิ ดอกอัญชัน ดอกคาโมมายล์ ดอกโชว์ ดอกลาเวนเดอร์ เป็นต้น
1. การหั่นแครอทโดยวางมีดเฉียงและหั่นเฉียงแบบติดไส้นั้น เพื่อให้ไส้ด้านในสุกขณะเดียวกันเนื้อด้านนอกยังกรอบอยู่
2. การใส่ผงกะหรี่ก้อนนั้นควรใส่หลังจากที่ต้มผักและเนื้อให้เปื่อยก่อน ไม่เช่นนั้นน้ำแกงจะข้นเป็นสาเหตุทำให้ผักสุกยาก
และไหม้ติดก้นหม้อ
3. การผสมแป้งทอดกรอบนั้นให้ใช้น้ำเย็นจัด เพราะการใช้น้ำเย็นจะช่วยให้การทอดนั้นฟูและกรอบง่ายขึ้น
1. คำว่าเทมปุระ หมายถึงการนำผักหรือผลไม้หรือเนื้อสัตว์มาชุบแป้งทอด
2. ธรรมเนียมการจัดจานของแกงกะหรี่ญี่ปุ่นคือ จะมีข้าวครึ่งหนึ่ง แกงครึ่งหนึ่ง
3. น้ำมันปาล์มทนความร้อนได้ 250 องศาฟาเรนไฮต์ เหมาะแก่การทอด
4. การปรุงน้ำแกงนั้นสามารถใส่ผลไม้สด เช่น แอปเปิ้ล มะละกอ สับปะรด เสาวรส มะม่วง ฯลฯ แทนน้ำผลไม้ได้
5. การใส่เนยในน้ำแกงจะช่วยให้น้ำแกงมีความเงางามและหอมมากขึ้น
6. เกลือที่มีความละเอียดมาก ๆ จะมีความเค็มสูงมากควรระมัดระวังในการปรุงรสอาหาร
7. เมนูแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเทมปุระนี้ จะใส่หรือไม่ใส่เนื้อก็ได้
|