<< Go Back

                   เพื่อให้นักเรียนศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง s, s’ และ f

1. เลนส์นูน

2. กล่องแสง

3. หม้อแปลงโวลต์ต่ำ

4. ไม้เมตร

5. กระดาษขาว

 

            ตอนที่ 1  การหาความยาวโฟกัสของเลนส์นูน
                  1. จัดเลนส์นูนและฉาก ดังรูป

                  2.เลื่อนเลนส์นูนไปที่ตำแหน่งปลายสุดของราง
                  3.จัดเลนส์นูนให้รับแสงจากวัตถุที่อยู่ไกลจากเลนส์ประมาณ 100 เมตร
                  4.เลื่อนฉากจนได้ภาพวัตถุคมชัดที่สุดฉาก เพื่อวัดความยาวโฟกัส

                  ผลลัพธ์ที่ได้  คือ  ความยาวโฟกัสของเลนส์นูน = 14.5 เซนติเมตร    ตำแหน่งภาพชัดที่สุดบนฉากถือเป็นตำแหน่งของจุดโฟกัส เนื่องจากถือว่าวัตถุนั้นอยู่ไกล แสงจากวัตถุจึงเป็นแสงขนาน และเมื่อแสงขนานผ่านเลนส์นูน จะไปพบกันที่จุดโฟกัส หรือกล่าวว่าเกิดภาพที่จุดโฟกัส

            ตอนที่ 2 การหาความสัมพันธ์ระหว่าง s, s’ และ f
                  1.วางกล่องแสงไว้ที่ปลายข้างหนึ่งของไม้เมตร
                  2.วางเลนส์บนไม้เมตรให้ห่างจากหลอดไฟของกล่องแสงไกลกว่าความยาวโฟกัสเล็กน้อย
                  3.เลื่อนฉากไปมาจนได้ภาพของไส้หลอดบนฉากคมชัดที่สุด
                  4.วัดระยะวัตถุ (s) และระยะภาพ (s’) บันทึกค่าที่ได้ในตาราง
                  5.เลื่อนเลนส์ให้ห่างหลอดไฟเป็นระยะต่างๆ อีก 4 ค่า ทำการทดลองซ้ำกับที่ได้ทำข้างต้นจะได้ s และ s’ อย่างละ 5 ค่า
                  6.คำนวณหา      และ    พร้อมทั้งบันทึกลงตาราง จากนั้นเขียนกราฟระหว่าง   กับ  

                  จาก  f=14.5 cm   จะได้ผลการทดลอง   ดังนี้

ครั้งที่ S(cm) (cm)
1 25 34.5 4.0 2.9
2 30 28.1 3.3 3.6
3 35 24.8 2.9 4.0
4 40 22.7 2.5 4.4
5 50 20.4 2.0 4.9

                  เขียนกราฟระหว่าง กับ โดยให้  และ    ได้ดังนี้

                  สรุปได้ว่า

                  1.เมื่อเขียนกราฟระหว่าง   และ   จะได้กราฟเส้นตรงตัดแกน   ที่ 7 m-1 และตัดแกน  ที่ 7 m-1  เช่นกัน   
                  2.ความชันของกราฟ =    = -1             
                  3.จากกราฟสามารถสรุปความสัมพันธ์ระหว่าง     s, s’ และ ได้ดังนี้
         จากสมการเส้นตรง  y   = ax+b จะได้
                  - y คือ    
                  - x คือ         
                  - a คือ ความชัน = -1
                  - b คือ จุดตัดบนแกนยืนซึ่งคือ         ดังนั้น

                                                                   =            -1 +         

                                                +              =           


<< Go Back