พืช คือสิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างอาหารเองได้
          การสร้างอาหารของพืชโดยการสังเคราะห์แสงเกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่มีแสง โดยเฉพาะช่วงกลางวันซึ่งจําเป็นต้องอาศัยปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

          1. คลอโรฟิลล์ ทําหน้าที่ดึงดูดพลังงานแสงเข้ามาปรุงอาหารเปรียบเสมือนพอครัว
        

          4. แสง

สมการการสังเคราะห์แสงของพืช มีดังน

สิ่งที่ได้จากการสังเคราะห์แสง มีดังนี้
          1. นํ้าตากลูโคสซึ่งสะสมในรูปของแป้ง            2. ก๊าซออกซิเจน             3. ไอนํ้า

          การหายใจของพืช คือการสลายอาหาร (นํ้าตาลกลูโคส) โดยใช้ออกซิเจนเพื่อให้ได้พลังงานซึ่งเกิดขึ้นทุกเวลาดังสมการ

สิ่งที่ได้จากการหายใจ มีดังนี้
          1. ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์               2. ไอนํ้า                 3. พลังงาน

1) การตรวจหาแป้งในใบไม้
          1. เลือกใบไม้สีเขียวที่ถูกแสงแดดมาแล้ว 3-4 ชัวโมง ต้มในนํ้าเดือดประมาณ 1 นาที เพื่อให้ เซลล์ตายทําลายเอนไซม์ และทําให้แป้งสุก
          2. คีบใบมาใส่หลอดทดลองขนาดใหญ่เติมเอทิลแอลกอฮอล์ 95% แล้วต้มต่อ 1-2 นาที เพื่อ สกดคลอโรฟิ ลล์ออกจากใบไม้จะได้ใบสีขาวซีดแล้วล้างใบไม้ด้วยนํ้าสะอาด
          3. นําใบไม้มาหยดสารละลายไอโอดีน ใบไม้สีขาวซีดจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มหรือสีนํ้าเงิน แสดงว่า พืชสังเคราะห์แล้วเก็บนํ้ าตาลกลูโคสในรูปของแป้งไว้

2) การทดลองเพื่อแสดงว่าการสังเคราะห์แสงต้องใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
          1. นํากระถางผักบุ้งมาตั้งไว้ในที่มืด 1 วัน แล้วแบ่งต้นผักบุ้งเป็ น 2 กลุ่ม หุ้มต้นผักบุ้งด้วย ถุงพลาสติกทั้ง 2 กลุ่ม
          2. นํากล่องพลาสติกใส่โซเดียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งมีคุณสมบัติดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มา 1 กล่องวางในถุงพลาสติกที่หุ้มต้นผักบุ้งใบหนึ่งไว้ ผูกปากถุงทั้ง 2 ไว้ แล้วนํามาตั้งให้ถูกแสง 3-4 ชัวโมง
          3. เปิ ดปากถุงแล้วเด็ดใบผักบุ้งที่อยูในถุงทั้งสองมาอยางละ 2 ใบทําเครื่องหมายไว้
          4. นําใบผักบุ้งทั้ง 4 ใบมาตรวจหาแป้ง จะพบสีนํ้าเงินเข้มเฉพาะใบที่เด็ดจากถุงที่ไม่มี โซเดียมไฮดรอกไซด์ แสดงว่า พืชต้องการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการสังเคราะห์แสง

                 https://thcom2.thaicom.net/T2K/html/downloads/science/1Plant.pdf